.......แต่งเพลงก่อน เป็นวิธีใหม่ของวงเรา ที่วงอื่นอาจจะใช้มานานแล้ว แต่การทำแบบนี้ มันทำให้เราอินมากขึ้น วิธีคิดของเราไปในแนวเดียวกันทั้งวง เพราะเรามีโจทย์เหมือนกัน ทำให้เดินไปในทางเดียวกัน โดย หมู วิทวัส ภักดิ์แจ่มใส มือกลองของวง ก่อนจะเล่าต่อถึงการทำงานในอัลบั้มนี้ ว่าใช้เวลาทำงานนานกว่า 2 ปี ทั้งที่ปล่อยเพลงแรกอย่างเพลง สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน มาเกือบ 1 ปีแล้ว ซึ่ง หมู ยอมรับว่าเป็นเพราะการทำงานที่เรื่องมากของวงเอง ไม่เกี่ยวกับข่าวที่ว่าวงถูกทางต้นสังกัดดองงานไว้
......เราเลือกมากเอง เพราะพิถีพิถันกับการทำงานมาก มันไม่เกี่ยวกับ ว่าเราถูกดองอะไรเลย แต่เรื่องมันเกิดจากทำงานของพวกเรา เพราะจริงๆ พวกเรามีเพลงที่ทำไว้แล้วเยอะมาก แต่เราอยากที่จะให้แฟนๆ ทุกคนชอบเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้ เราก็เลยพยายามคัดเลือกเพลงที่ดีที่สุด โดยจะต้องเป็นเพลงที่สมาชิกทั้งวงชอบ ไม่ใช่แค่ก็ดีแล้วจะผ่านมาลงในอัลบั้ม แต่ทุกคนในวง จะต้องบอกเลย ว่าชอบ โอเค ซึ่งด้วยเหตุนี้แหละ เลยทำให้อัลบั้มช้า เพราะกว่าจะเลือกได้ แต่ละเพลงก็ต้องใช้เวลานาน จะต้องแก้ไขจนทั้งวงโอเคด้วยกัน หมูกล่าว
Sweet Mullet.....อัลบั้มนี้ผมไม่ได้ว้ากเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะก็อย่างที่บอก ว่าอัลบั้มนี้เราเน้นการสื่อสารที่เข้าถึงแฟนๆ ให้มากที่สุด บางทีการว้าก ก็ทำให้คนฟังไม่เข้าใจอารมณ์ ที่เราจะถ่ายทอดออกไป เลยว้ากน้อยลง เน้นเข้าถึงอารมณ์เพลง และคนฟังมากขึ้น ในตอนแรกแฟนๆ เก่าๆ ของเราเขาก็งง ว่าทำไมเราถึงเปลี่ยนแนวไป แต่จริงๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เรายังเป็นสวีทมัลเล็ทเหมือนเดิม ซาวนด์ดนตรีทุกอย่าง ก็ยังเป็นเรา แต่เราแค่อยากให้เพลงเราสื่อถึงคนฟังมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งพอเพลงเราปล่อยออกไปทั้ง สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน คมมีด และพลังแสงอาทิตย์ กระแสที่กลับมาก็ดีมากๆ เต๋าเผย
แถมนักร้องนำคนเก่งยังเล่าถึงคอนเซ็ปอัลบั้มว่าอัลบั้มนี้เน้นเพลงแนวบวกมากขึ้น และเป็นเพลงที่เปิกว้างไม่ได้มีแค่เรื่องราวของความรักเท่านั้น
Sweet Mullet.......เพลงในอัลบั้มนี้ก็จะมีเพลงที่เราพยายามจะให้อะไรกับใครหลายๆ คนได้ อย่างเพลงพลังแสงอาทิตย์ที่เป็นเพลงที่เราแต่งขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจกับคนที่กำลังท้อแท้ สิ้นหวังติดอยู่กับมุมมืดของชีวิตลุกขึ้นมาสู้ ชีวิตคนเราต้องมีความหวังเพื่อวันข้างหน้า เลยอยากให้คนที่ตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ออกมาสัมผัสความอบอุ่นของแสงแดดเป็นการเติมความสดชื่นให้ชีวิต เพลงนี้เราไม่ได้หวังว่าจะต้องติดชาร์ตอันดับหนึ่ง หรือได้ยอดดาวน์โหลดสูงสุด เราหวังแค่ว่าคนที่กำลังท้อแท้ ได้ฟังเพลงนี้แล้วจะมีกำลังใจลุกขึ้นสู้ต่อ แค่นี้เราก็รู้สึกดีมากๆ แล้ว อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็มีน้องคนหนึ่งเดินมาบอกว่าเขาได้ฟังเพลงนี้ตอนที่เขาท้อแท้มาก จนไม่อยากที่จะสู้ แต่พอฟังเพลงนี้เขาก็มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ พอผมได้ยินแล้วรู้สึกปลื้มมาก รู้สึกว่านี่แหละสิ่งที่ผมต้องการจากการแต่งเพลงนี้ขึ้นมา" เต๋าในฐานะนักร้องนำของวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ก่อนที่ เต๋า จะปิดท้ายด้วยการฝากถึงอัลบั้ม Sound of Silence ที่จะวางแผงในวันที่ 29 เมษายนนี้ ว่าอยากที่จะให้แฟนๆ เปิดใจรับกับการเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าของวง และเชื่อว่าการทำงานที่ยาวนาน จะเป็นบทพิสูจน์ว่าพวกเขามีของดีจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น